รีวิว สมัครแอร์ Japan Airlines (JAL | 2018)
สวัสดีค่าาา กลับมาอีกรอบแล้วน้าาาาาา
วันนี้เมจะมารีวิวการสมัคร Japan Airlines ปี 2018 นะคะ
แต่เราตกไฟนอล5555+ ด่านโหดที่ไม่เคยผ่านไปได้เลย T_T
หลังจากตกไฟนอลกาต้ามาสองสามรอบ ก็ตกไฟนอลเพิ่มอีกแล้ว555
แต่เรารู้ว่าเราพลาดตรงไหน จริงๆๆ ตามอ่านกันได้เลย
*** ไม่ได้ไปเรียนที่ไหน แต่อ่านตามรีวิวปีเก่าๆแล้วก็ฝึกฝนค่า ***
Process ที่เราเจอ จะมีทั้งหมด 4 รอบค่ะ
1. Pre-Screen
2. First Interview
3. Second Interview (ไฟนอล)
4. ตรวจสุขภาพ (เมไปไม่ถึงรอบนี้)
(Cr. Prosky.co)
การแต่งกาย
แนะนำให้ทุกๆคนใส่สูทนะคะ ถ้าเค้าไม่ได้กำหนด Dress Code
Japan Airlines ถือว่าเป็นสายการบินที่ญี่ปุ่นจ๋า สีฉูดฉาดไม่เอาค่ะ
ใส่สูทสีพื้นๆ Business Attire ในกูเกิ้ลเป็นแบบได้ค่ะ
เราใส่สูทสมัครแอร์สีกรม แขนสั้น เสื้อด้านในเป็นเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ของ G2000
เพื่อนๆที่เข้าไฟนอลกันมา ใส่สูทสีกรม สีดำทั้งนั้นเลยค่ะ (ทุกคนใส่สูทหมดเลย)
🔻เริ่มต้นด้วย Pre Screen🔻
รอบนี้ เค้าเปิดให้ walk in ได้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์
เราโชคดี ได้คนสัมภาษณ์เป็นคนญี่ปุ่นเลยค่ะ
(ได้ยินมา เค้าจะคุยเยอะกว่ากรรมการไทย มีโอกาสทำคะแนนเยอะกว่าค่า)
สัมภาษณ์พร้อมกัน 2 คนกับกรรมการ 1 ท่าน
ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีเอง (แต่รอคิวนานนิดนึงค่าา)
เพื่อนที่ไปพร้อมเรา พูดญี่ปุ่นได้ด้วยค่ะ
เค้าได้โอกาสทำคะแนนคุยญี่ปุ่นกับกรรมการเลย
แต่เราก็ต้องอย่าลืมยิ้มฟังเพื่อน พยักหน้าตามด้วยนะค้า
อย่าทำหน้าบูด ว่าเราพูดญี่ปุ่นไม่ได้เค้าจะไม่สนใจ
คำถามที่เจอ(เหมือนกันทั้ง2คน)
- มาที่นี่ยังไง
- ทำไมอยากเป็นแอร์
- รู้จักคนญี่ปุ่นมั้ย คนญี่ปุ่นเป็นคนยังไง
- จิปาถะทั่วไปคร่า
จากนั้นเค้าก็จะให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวเรา
ผ่านมือถือกับระบบที่เค้าเตรียมไว้ให้ค่าาา (ตรงนั้นเลย)
คำถามจำพวก ชื่อ อายุ คะแนนโทอิค ว่ายน้ำเป็นมั้ย
ยินยอมจะเริ่มทำงานเมื่อไหร่ก็ได้มั้ย และอีกมากมาย
(พี่ๆเค้าบอกว่า ที่คนมา walk in ประมาณ 2000 คนเลย)
🔻รอบถัดมา เป็นรอบ 1ST Interview🔻
หลังจากได้เมลล์ประกาศผล (รอเป็นเดือน จนลืมม)
เราก็จะทราบว่า ผ่าน/ไม่ผ่าน Japan Airlines ถือเป็นสายการบินที่แฟร์มากๆค่ะ
ทุกๆคนที่สมัครจะได้ทราบผลแน่ชัดว่า เราผ่านหรือไม่ผ่าน
เพราะบางที่จะส่งเมลล์ให้เฉพาะคนที่ผ่าน
ทำให้เราอาจจะตกรอบแบบงงๆ เพราะไม่รู้ว่าเมลล์ผิด ส่งไม่ถึง หรือ ไม่ผ่านกันแน่
รอบนี้ เราได้ invite ไปที่โรงแรมแถว King Power รางน้ำ
เค้าจัดเป็นระบบมากๆๆค่ะ เราไปก่อนเวลาที่เค้านัดสัมภาษณ์ประมาณ 15 นาที
ใช้เวลาส่วนนั้น ยื่นเอกสาร (ไม่คืน TOEIC ตัวจริง หรือ Reprint)
วัดส่วนสูง/ชั่งน้ำหนัก กรอกคำตอบเล็กน้อย และก็รอเข้าห้องสัมภาษณ์เลยค่าาา
ระหว่างรอ พี่ๆแอร์ ก็จะมา brief สั้นๆ เข้าไปเจออะไรบ้าง
มีกรรมการไทยนั่งตรงไหน ควรทำตัวยังไง วางกระเป๋าตรงไหน
ถือว่าเราใจชื้นมากๆ รู้สึกผ่อนคลาย พี่ๆแอร์ใส่ใจมากๆๆเลยค่ะ
รอบนี้ เราสัมภาษณ์เดี่ยวกับกรรมการ 3 ท่าน (ญี่ปุ่น2 ไทย1)
คำถามยิงยับค่า รอบนี้ 555+ จบคนนั้น คนนี้ถามต่อ คนนู้นถามเพิ่ม
เราก็จำได้คร่าวๆน้าา ประมาณนี้เลย
1. แนะนำตัวเอง
2. เพิ่งเรียนจบใช่มั้ย (เมอายุ23 แต่จบตั้งแต่21 ไปอเมริกามา)
3. ไปอเมริกา ไปทำอะไรมา (ไปเรียน)
4. ได้อะไรอีกนอกจากไปเรียน (เมบอกได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนความคิดกับคนอเมริกาที่โบสถ์)
5. ได้อะไรจากตรงนั้น (อันนี้คือถามจี้เลย ถ้าแถเค้าจะรู้ค่ะ)
6. เคยไปญี่ปุ่นมั้ย / ได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง
7. คนญี่ปุ่นกับคนไทยต่างกันยังไง
8. คิดว่าเราเป็นคนหัวอ่อน หรือ หัวแข็ง
9. รู้ใช่มั้ย ว่าวัฒนธรรม western กับ ญีปุ่่นไม่เหมือนกัน (อันนี้เราโดนเพราะเราเคยทำงานที่อเมริกาค่ะ)
10. และก็ถามเรื่องธุรกิจที่เราทำอยู่ค่ะ
-- ไปหาของมาจากที่ไหน
-- ถ้าได้เป็นแอร์ ก็ต้องเลิกทำ จะทำยังไง
11. วางแผนจะทำงานกับเจแปนแอร์ไลน์นานแค่ไหน
ฯลฯ
รวมๆ รอบนี้ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ตั้งแต่ ยื่นเอกสาร จนสัมภาษณ์เสร็จค่า
หลังจากนั้นแค่ 1 วัน เค้าก็ประกาศผล คนผ่านเข้าไฟนอลค่ะ
รอบนี้ มีคนผ่านทั้งหมด 60 คน จาก ประมาณ 400 คน
🔻2ND INTERVIEW🔻
รอบนี้ เราได้มาสัมภาษณ์ที่ออฟฟิศของเจแปนแอร์ไลน์เลย
รู้สึกเป็นบุญมากๆๆ ได้เข้ามาที่นี้ อยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิเลยค่าาา
รอบนี้ เราก็เป็นสัมภาษณ์เดี่ยวกับกรรมการ 3 ท่าน
เป็นคน ญี่ปุ่น 2 ท่าน และคนไทย 1 ท่าน (เปลี่ยนกรรมการค่ะ)
รอบนี้ กรรมการ ถามท่านละ 2-3 คำถาม ไม่ค่อยถามจี้แล้วค่า
ที่เราเจอเลย
1. แนะนำตัว
2. เกี่ยวกับธุรกิจของเรา(อีกแล้ว)
3. เป้าหมายในอนาคต
4. วางแผนทำงานกับแจลนานแค่ไหน
5. (เราตายเพราะคำถามนี้) รู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ JAL
6. คิดว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนยังไง
7. สังคม วัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นยังไง
ใช้เวลากับกรรมการประมาณ 10-15 นาทีค่ะ
กรรมการท่านมีเครื่องจับเวลา ถ้าดังปุ๊บคือหมดเวลา
ใครที่ทำสายการบินอยู่
JAL จะชอบให้เปรียบเทียบ ให้เลือก พอสมควรค่ะ
ประมาณว่า สายนู้นก็ดีไม่อยากทำหรอ ทำไมมาเลือกเรา
ให้เลือกระหว่าง JAL กับ TG ทำไมไม่ไปสมัครTG,PG
ใครที่ทำสายการบินอยู่
JAL จะชอบให้เปรียบเทียบ ให้เลือก พอสมควรค่ะ
ประมาณว่า สายนู้นก็ดีไม่อยากทำหรอ ทำไมมาเลือกเรา
ให้เลือกระหว่าง JAL กับ TG ทำไมไม่ไปสมัครTG,PG
ที่เราบอกว่าเราตายเพราะคำถามนี้ คือ
เราดันขึ้นต้นประโยคผิดทุกคน จะตอบว่า As far as I know Japan Airlines...
ดันไปบอกว่า ไม่รู้อะไรเยอะเกี่ยวกับคอมพานีนี้ แต่ร่ายยาวมากกกก เพราะจริงๆรู้เยอะมาก5555+
(เพราะอ่านมาเยอะว่า Japan Airlines ชอบคนอ่อนน้อม ไม่ชอบคนอวดฉลาด)
คือ พอเราขึ้นประโยคแบบนั้น impression เค้าหมดแล้วอ่ะเน้ออ
เค้าก็ถามต่ออีกว่า อยากทำงานกับคอมพานีที่ไม่รู้จักหรออ
ทำให้เรารู้เลย เราพลาดมากกก แค่ 1 ประโยค แต่เปลี่ยนผลได้เลย
พอตอบคำถามข้อถัดไป มันก็ล่กๆๆ สติหลุดแล้ว
เพราะปกติเป็นคนพูดภาษาอังกฤษไวมากค่ะ
และ วันถัดมา ก็รู้ผลเลยค่า ว่าเราไม่ผ่าน Y___Y
------------------------------------------------------------------------------
สายการบินญี่ปุ่น
1. ชอบคนอ่อนน้อมถ่อมตน Seniority สูง
2. ภาพลักษณ์ภายนอกก็สำคัญ เพราะฉะนั้นใส่ใจมันซักนิด
3. หน้าเป็นสิว ไม่ได้เรียบเนียน ก็เข้าไฟนอลหลายคนค่า
4. มีแผลเป็นก็เข้าไฟนอลหลายคนเช่นกันค่ะ กลบดีๆเด้อ
5. อย่าทำหน้าบึ้งเด็ดขาดนะคะ! ใครที่ยิ้มไม่เก่ง ฝึกอมยิ้มไว้
ไม่จำเป็นต้องยิ้มเห็นฟันตลอดเวลาค่าา อมยิ้ม อมๆๆๆเข้าไป
ให้หน้าเรามีความสุขก็พอ ไม่ต้องยิ้มจนดูเว่อออร์
6. สำเนียงคนญี่ปุ่น ส่วนตัวเราคุ้นชินกับสำเนียงญี่ปุ่น/เกาหลีมาก ถือว่าเราโชคดี
ถ้าใครไม่คุ้นชิน ต้องตั้งใจฟังดีๆนะคะ อย่าหลุดเด็ดขาด ไม่งั้นโดนลบคะแนนน้า
💥ที่เค้าบอกกันว่าคนญี่ปุ่นชอบคนพูดน้อย
เราว่าอาจจะไม่จริงนะคะ 1st interview เราพูดค่อนข้างเยอะน้าาา
แต่เราคุมสติให้พูดช้าลง พูดให้ชัดขึ้น ใส่ความ soft มากขึ้นค่ะ
Keyword สำคัญเลยที่เราว่าเป็นประโยชน์กับการสมัครนี้ :
Seniority, Respect , Dedicated and Willing to work for the company (As long as possible)
ถ้าเพื่อนๆคนไหนกำลังคิดคำตอบอยู่ ใส่คำพวกนี้ลงไปนะค้าา
ก็ขอฝากไว้เท่านี้นะคะ
ถ้าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆคนไหน มีข้อสงสัย
สามารถสอบถามเราได้เลย ยินดีตอบให้เต็มที่ค่า
พูดภาษาอะไรคะ
ตอบลบ